การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค Butterfly Lift
การฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบัน แพทย์ความงาม ทั่วโลก ต่างให้ความเห็นตรงกัน และให้การยอมรับ ว่าช่วยลด สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาความหย่อนคล้อยบนใบหน้าได้ดี ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาที่มาจากอายุที่มากขึ้น ซึ่งทำให้สูญเสียปริมาณของเนื้อเยื่อใต้ผิวที่ลดลง ทำให้เกิดการยุบตัวของกระดูกโครงหน้า หรือที่เรียกว่า Volume Loss ซึ่งจากที่ตัวนายแพทย์พุฒิพงศ์ ที่ให้บรรยายและสอนแพทย์ความงาม ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญ ในการฉีดฟิลเลอร์ ให้กับแพทย์หลายคนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ได้พัฒนาเทคนิควิธีการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการหย่อนคล้อยได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ โดยที่หลังได้รับการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว ไม่ได้การบอบช้ำจากการฉีด และเจ็บตัวมาก ซึ่งทางคุณหมอเองได้ให้ชื่อว่า Butterfly Lift และได้บรรยายสอนแพทย์ความงามทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น ไต้หวัน สิงคโปร ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง รวมถึงในโซนยุโรป สำหรับ ประเทส สวีเดน ที่มีแพทย์ไทย ไปเรียนในต่างประเทศ เพื่อนำเอาเทคนิคต่างๆ ไปใช้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย และได้รับการยอมรับ ตีพิมพ์ออกมาเป็นตำราแพทย์ไทย ในช่วงปี 2564 ซึ่งก็ทำให้ได้รับการพิจสูจน์และยอมรับจากหลายๆ วงการแพทย์นานาชาติ

ปัจจุบันแพทย์ความงามทั่วโลกเห็นพ้องกันแล้วว่า สาเหตุหลักๆของการหย่อนคล้อยของใบหน้า มาจากการสูญเสียปริมาตรของเนื้อเยื่อใต้ผิว ซึ่งรวมถึงการบางตัวลงของกระดูกโครงหน้า หรือที่เรียกว่ารวมๆว่า Volume Loss จากการที่ผมเป็นแพทย์วิทยากรบรรยายและสอนแพทย์ความงามฉีดฟิลเลอร์ทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ ผมได้พัฒนาเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เพื่อใช้แก้ปัญหาหย่อนคล้อยอย่างได้ผลทันใจ และไม่เจ็บตัวมาก ที่ชื่อว่า Butterfly Lift ซึ่งผมได้บรรยาย และสอนให้แพทย์ความงามในประเทศต่างๆในเขตเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ใต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน รวมถึงในยุโรป เช่น สวีเดน มีแพทย์ไทย และต่างประเทศเรียนรู้เทคนิคไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย และกำลังจะตีพิมพ์เป็นตำราแพทย์ในช่วงปี 2564 นี้ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์อย่างดีว่า เทคนิค Butterfly Lift ได้ผลดีจริง และได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ความงามระดับนานาชาติ ซึ่งบทความนี้ผมจะอธิบายให้ท่านผู้อ่านเข้าใจว่าทำไมฉีดฟิลเลอร์แล้วถึงยกหน้า และทำให้หน้าเล็กลงได้
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า มาดูหลักการและเหตุผลกัน
หลายคนในที่นี้ มักจะเริ่มเกิดความกังวลเมื่อเกิดปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยบนรูปหน้า ซึ่งปัจจุบันหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย คือ การดึงหน้า ยกกระชับผิวให้ตึง ด้วยวิธีการร้อยไหม ผ่าตัด หรือจริงๆ แล้ว เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ หรืออาจจะรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ อัลตราซาว HIFU แต่ก็ช่วยได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะวิธีการเหล่านี้ก็ยังไม่ได้กระตุ้นชั้นผิวได้ลึกพอ หรืออย่างมากก็ลงลึกได้แค่ชั้นผิวที่เรียกว่า SMAS ซึ่งก็ยังถือว่าไม่ลึกพอ เพราะชั้น SMAS เป็นชั้นเนื้อเยื่อเหนียวๆ ไม่สามารถกระตุ้นให้หดตัวหรือ ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้ แต่สามารถใช้เย็บดึงหน้าได้ เพราะมันเหนียวไม่ยืดหยุ่นเหมือนผิวหนังเรา การผ่าตัดดึงหน้าโดยการเย็บผูกที่ชั้น SMAS จึงได้ผล และอยู่นาน แต่การร้อยไหมชนิดที่มีแง่งเกี่ยวหรือกรวยเอง ก็เป็นจุดที่เกี่ยวยึดผิวหนังเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน ผิวหนังก็ค่อยๆ ยืดออก ณ วันหนึ่งก็ทำให้การรักษาไม่ได้ผล หรือต้องการไปร้อยไหมเพิ่ม แต่การร้อยไหมอีกประเภทที่เส้นไหมเล็ก ไม่มีแง่ง หลังร้อยแล้ว จะออกฤทธิ์โดยกระตุ้นผิว ก็จะค่อยๆกระตุ้นผิวให้หดตัวเพื่อหวังผลยกกระชับ

แต่ทุกวิธีที่กล่าวมาก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะไม่มีวิธีไหนเลย ที่แก้สาเหตุการยุบตัว หรือ Volume loss สำหรับการผ่าตัดอาจเห็นว่าหน้าตึงขึ้นก็จริง แต่ก็เสียมิติของใบหน้า และดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะไม่ได้แก้การยุบตัวของกระดูกโครงหน้าก่อนนั่นเอง
ดังนั้นการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุด ควรเริ่มที่การแก้การยุบตัวก่อน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด สำหรับวงการความงามด้านการแพทย์ นิยมแก้หรือรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ HA โดยต้องคำนึงถึงจุดฉีด และคำนึงถึงหลักการวิเคราะห์ใบหน้า (Facial analysis) โดย ใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง (Mid face & Lower face) ซึ่งมักจะเกิดและเป็นส่วนที่เกิดการหย่อนคล้อยก่อนส่วนอื่น และเป็นมากกว่าส่วนอื่น เนื่องจากส่วนนี้ มีการเคลื่อนไหวมากกว่าส่วนอื่นนั่นเอง การแก้ปัญหาจึงควรเริ่มที่จุดเหล่านี้ก่อน
ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า Butterfly Lift จะอาศัยหลักการดังนี้
ศัลยแพทย์ก็จะใช้เข็มปลายทู่ ทิ่มลงไปยึดที่จุดต่างๆ ลงบนโครงกระดูกใบหน้าและเส้นเอ็นเพื่อช่วยปรับรูปหน้า และยกหน้าส่วนต่างๆ ยกตัวอย่าง เช่น การยกส่วนแก้ม จะปรับส่วนของโหนกแก้มให้ดูเล็กลง การแก้ปัญหาร่องใต้ตา-ถุงใต้ตา ร่องแก้ม และปรับยกมุมปากขึ้น นอกจากนี้ Butterfly Lift ศัลยแพทย์เองยังต้องอาศัยความรู้เรื่องแสงเงารวมถึงการแต่งหน้ามาช่วยในการใช้ฟิลเลอร์ฉีดปรับรูปหน้า และหลังการรักษาจะพบว่าโครงหน้าดูยกกระชับ และใบหน้าจะดูหน้าเรียวเล็กขึ้นทันที ใบหน้าจะดูสวยได้รูป ที่สำคัญ ยังทำให้โครงหน้า รูปใบหน้าดูสวยงาม เป็นธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับเทคนิคการฉีดแบบเก่า ซึ่งทำให้หน้าดูอ้วนใหญ่ขึ้นหลังฉีด ถึงแม้จะฉีดด้วยเข็มปลายทู่เหมือนกันก็ตาม

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ สิ่งที่ต้องรู้ สำหรับข้อควรระวัง และผลข้างเคียง
ข้อแรก ปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ด้วย เทคนิคการฉีดแบบ Butterfly Lift ศัลยแพทย์จะต้องฉีดด้วยเข็มปลายทู่เท่านั้น เพราะการฉีดด้วยวิธีนี้ อาจจะมีอันตรายจากความเสี่ยงที่จะฉีดถูกเส้นเลือดได้ เพราะต้องฉีดลงลึกหลายๆ ตำแหน่ง และเทคนิคสำคัญ ที่ต้องฉีดด้วยเข็มปลายทู่เพราะจะช่วยทำให้เกิดการยกกระชับได้ดีกว่า และช่วยกระจายตัวยาฟิลเลอร์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาได้เรียบเนียนกว่า
ข้อสอง ศัลยแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ ในการเลือกตัวยาฟิลเลอร์ ที่เหมาะสม ทำให้ผลลัพธ์หลังการรักษาดูเป็นธรรมชาติ ได้ผลที่ดีขึ้น เพราะใช่ว่าฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะดูดน้ำมาก อาจจะเกิดเอฟเฟคทำให้หน้าดูบวมหลังฉีด ที่สำคัญ ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดจะต้องปลอดภัยและเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ไม่ได้ผลิตมาจากสัตว์ หรือที่เรียกว่า Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid (NASHA) ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยสูง รวมถึงการเลือกใช้ฟิลเลอณืที่มีเนื้อเจลประกอบด้วย HAอนุภาคใหญ่ (Large-particle HA gel) ที่มีขนาดเท่าๆ กัน จะช่วยให้คงรูปอยู่ได้นานกว่า และช่วยยกหน้าทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดีกว่านั่นเอง
ข้อสาม อาการเขียวช้ำ ส่วนมาการฉีดฟิลเลอร์ด้วยวิธีนี้จะพบปัญหานี้เกิดได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มักเกิดจาการฉีดยาชา ซึ่งเทคนิค Butterfly Lift ปกติไม่มีรอยเขียวช้ำ และไม่ต้องพักฟื้นเลย

มาดูข้อดีสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ที่ทำให้สาวๆ ต้องร้องว้าว !!!
ข้อแรก การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้เวลาไม่ได้ แลกกับผลลัพธ์ที่คุณเองก็ประหลาดใจ
สมัยนี้ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ความงามที่ก้าวหน้าไปไกล การฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้า จึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่ต้องการความสวยกับผลลัพธ์ที่ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องพักฟื้น และที่สำคัญ หลังทำความสวยต้องไม่กระทบกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันด้วยเป็นสำคัญ ฉีดใช้เวลาไม่นาน หลังฉีดแผลมีขนาดเล็กเท่ากับเข็มที่ฉีดลงไป และไม่ต้องกังวลกับปัญหาหลังฉีด เรียกว่า ฉีดเสร็จปุ๊บก็สามารถกลับบ้านได้เลย
ข้อสอง ยังสามารถกลับมาแต่งเติมได้อยู่เรื่อยๆ
หากมีความรู้สึกว่าต้องการเติมฟิลเลอร์บนใบหน้าจุดใดเพิ่ม เพื่อเพิ่มความเพอร์เฟคให้มากขึ้น ก็ยังสามารถฉีดเติมหรือเนรมิตสิ่งที่คุณต้องการปรับแต่ง ปรับแก้ได้อยู่เรื่อยๆ แต่อาจจะต้องขอคำแนะนำ คำปรึกษาเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงถ้าจุดใดรู้สึกว่าฉีดมากไป ก็ยังสามารถเอาสารประเภทนี้ออกไป ด้วยการฉีดเพื่อให้ฟิลเลอร์สลายออกได้อีกด้วย
ข้อสาม การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยและเป็นที่นิยม ยอมรับกันทั่วโลก
หากคุณเลือกคลินิกหรือสถานประกอบการความงามที่ได้มาตรฐาน มีศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญด้านการเลือกใช้ฟิลเลอร์ เลือกฉีดฟิลเลอร์ให้กับท่าน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ บนใบหน้า สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลย ก็คือ การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบมาแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่มีสารตกค้างหลังฉีดเข้าไปบนใบหน้า ปลอดภัยหลังฉีด และสามารถย่อยสลายได้เองหากฉีดไปแล้วในระยะเวลาหนึ่ง

ข้อสี่ การฉีดฟิลเลอร์ สามารถปรับแต่งความสวยได้เอง
สาวๆ หลายๆ คนคงจะชอบและถูกใจเป็นอย่างมาก เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าจริงๆ แล้วไม่มีกฎเกณฑ์อะไร สามารถจะฉีดปรับแต่งความสวยตามจุดต่างๆ ที่เราต้องการได้เลย หากมีจุดไหนที่เกิดปัญหาการเหี่ยวย่น ก็สามารถที่จะฉีดเข้าไปในจุดนั้น เช่น บริเวณหน้าผาก หรือหากกังวลเรื่องปัญหาแก้มตอบ ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ในจุดนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาจุดที่พกบร่องนั่นได้ทันที ทำให้ความงามที่เราต้องการจากความฝันกลายเป็นความจริงได้ง่ายดาย
ข้อห้า การฉีดฟิลเลอร์ไม่มีขั้นตอนใดๆ ที่เยอะแยะ หรือยุ่งยากและซับซ้อนน่ากังวล
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตการอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยม และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไม่มีข้อปัญหาใดให้น่ากังวล ไม่มีขั้นตอนความยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและชำนาญจากแพทย์ ที่ต้องฉีดบริเวณที่ต้องการเติมเติม แก้ไขปัญหาจุดที่พกพร่อง โดยผู้รับการฉีดไม่ต้องพักฟื้น เรียกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทำได้รวดเร็ว ไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ สาวๆ หลายๆ คน จึงชอบฉีดฟิลเลอร์กันอยู่เสมอ
มาดูกันต่อว่า หลังจากที่เราฉีดฟิลเลอร์กันแล้ว ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
ข้อแรก ช่วง 2 วันแรก หลังจากที่เราได้รับการฉีดฟิลเลอร์แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ จนได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแล้ว ให้ระวังอย่าให้ใบหน้าของเราโดนความร้อนหรือแสงแดด โดยเด็ดขาด รวมถึงกิจกรรมใดๆ หนักๆ หรือการออกกำลังกายให้งดไปก่อน
ข้อสอง ให้งดการสูบบุหรี่ หรืองดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ข้อสาม เน้นการรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าวิตามินเอและซีสูง เพื่อให้ร่างกายเสริมการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในใต้ชั้นผิวให้ดีขึ้น
ข้อสี่ ช่วงที่หลังจากได้รับการฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้ว ควรดื่มน้ำมาเยอะมากเพียงพอ เพราะตัวฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ การดื่มน้ำให้มากเพียงพอ จะทำให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานมากขึ้น และทำให้ใบหน้าเราดูเรียวสวยเป็นธรรมชาติ เพราะจะดูรู้สึกได้ว่าผิวอิ่มน้ำ
ข้อห้า งดการนวด การจับตรงจุดที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจจะทำให้ใบหน้าของเรามีปัญหาในภายหลังได้
สุดท้ายนี้ อยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่า ใครเองที่อยากจะรับบริการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า การเลือกรับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ได้รับการรับรองที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ รวมถึงคลินิกได้รับการรับรองการเปิดถูกต้องตามกฎหมาย แพทย์ผู้ให้บริการฉีดฟิลเลอร์เองก็ต้องมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเรา ปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังฉีดให้น้อยที่สุด หรือไม่มีผลกระทบใดๆ หลังฉีดเลย จะดีที่สุด

